ขอยันต์ฟ้าประทานพร เซียนแปะโรงสี อาจเป็นชื่อที่หลายคนอาจไม่เคยได้ยินมาก่อน
แต่สำหรับคนไทยเชื้อสายจีนละแวก จ.ปทุมธานี และพ่อค้าแม่ค้าที่ทำมาค้าขาย เชื่อว่าต้องมีคนเคยได้ยินชื่อนี้แน่นอน เพราะบางคนไหว้บูชารูปเซียนแปะโรงสี เสมือนเป็นหนึ่งในของขลังในการค้าขายและทำธุรกิจต่างๆ
ทำความรู้จัก “เซียนแปะโรงสี” คือใคร? เซียนแปะโรงสี คือ อาจารย์โง้ว กิมโคย เป็นคนไทยเชื้อสายจีนที่มีตัวตนอยู่จริงๆ สมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่มีชื่อไทยว่า นที ทองศิริ เป็นที่รู้จักกันในฐานะเจ้าของโรงสีย่านปทุมธานี ที่ขยันทำมาหากินจนสามารถสร้างตัวได้ อีกทั้งยังมีความรู้ด้านพิธีกรรมและศาสตร์ฮวงจุ้ยแบบจีน ทำให้ผู้คนต่างพากันเรียกชื่อท่านว่า “เซียนแปะโรงสี”
เซียนแปะโรงสี ช่วยเรื่องอะไร? ผู้ที่นับถือเซียนแปะโรงสี จะบูชา “ยันต์ฟ้าประทานพร” ซึ่งถือเป็นยันต์ประจำตัวของเซียนแปะโรงสี ที่บรรดาลูกศิษย์และผู้เลื่อมใสนิยมพกติดตัว เก็บไว้ที่บ้านหรือร้านค้าเพื่อเสริมสิริมงคลในด้านการค้าขาย เนื่องจากเชื่อว่าการไหว้บูชาเซียนแปะโรงสี จะช่วยเสริมมงคลในเรื่องการเงิน โชคลาภ ทำมาหากินได้ ไม่มีอดตาย บ้างก็ไหว้บูชาเพื่อเสริมมงคลเรื่องการงานและความเจริญก้าวหน้า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ทำธุรกิจหรือค้าขาย ก็จะนิยมบูชารูปเซียนแปะโรงสี เพื่อเชื่อว่าจะช่วยดึงดูดลูกค้า จากที่เคยขายของไม่ดี ก็จะเริ่มมีลูกค้าหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย ทั้งนี้ ผู้ที่บูชาเซียนแปะโรงสีก็ต้องเป็นผู้ที่ทำมาหากินโดยสุจริต และไม่เบียดเบียนผู้อื่น
ประวัติ “เซียนแปะโรงสี” ทำไมผู้คนถึงศรัทธา? เซียนแปะโรงสี เป็นคนจีนที่อพยพเข้ามายังประเทศไทยในปัจจุบัน ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 โดยท่านเริ่มจากการรับจ้างเป็นแรงงานทั่วไป จนกระทั่งได้เข้ามาทำงานในโรงสีในพื้นที่ปทุมธานี ท่านเป็นคนสู้ชีวิต อดออม ขยันทำมาหากิน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค และเป็นผู้มีอุปนิสัยใจกว้าง มีน้ำใจ ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ลำบากกว่าตนอยู่เสมอ
จนกระทั่งต่อมา เซียนแปะโรงสีได้ผันตัวเป็นพ่อค้าขายข้าวสาร ได้รับความไว้วางใจจากเถ้าแก่โรงสีต่างๆ และได้สร้างโรงสีร่วมกับโรงสีบางโพธิ์ใต้ จนกลายเป็นเจ้าของกิจการเอง โดยใช้ชื่อไทยว่า “นที ทองศิริ” แม้ท่านจะไม่ลำบากเหมือนแต่ก่อน แต่ด้วยความที่เป็นคนมีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น จึงเป็นที่รักใคร่ของชาวบ้านในละแวกนั้น
วันหนึ่ง เซียนแปะโรงสีเห็นศาลเจ้าไม้เล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมน้ำ เริ่มทรุดโทรม จึงมาซ่อมแซมศาลเจ้าแห่งนั้นด้วยตัวเอง ทุกๆ วัน ท่านจะพายเรือมาซ่อมศาลเจ้าจนกลายเป็นภาพชินตาของชาวบ้าน ทำให้เริ่มมีประชาชนมาร่วมบูรณะศาลเจ้าด้วย จากศาลเจ้าเล็กๆ จึงเริ่มกลายเป็นศาลเจ้าขนาดใหญ่ เมื่อสร้างเสร็จท่านจึงหาฤกษ์สำหรับเฉลิมฉลองศาลเจ้าประจำปี
ในวันทำพิธี ท้องฟ้ามืดครึ้มเป็นเค้าลางว่าพายุจะเกิดขึ้นในอีกไม่นาน เซียนแปะโรงสีจึงจุดธูปทำพิธีไล่ใน ปรากฏว่าท้องฟ้ากลับโปร่งใสเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจ ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์จึงเริ่มพูดกันปากต่อปากถึงความศักดิ์สิทธิ์ของเซียนแปะโรงสีผู้นี้ ประกอบกับท่านเป็นคนดีและอยู่ในศีลธรรม ทำให้เริ่มมีผู้ศรัทธาในตัวท่านเพิ่มมากขึ้น
ไม่เพียงเท่านั้น มักมีผู้เลื่อมใสเดินทางมาขอคำแนะนำเรื่องฮวงจุ้ยและพิธีกรรมต่างๆ เนื่องจากท่านมีความชำนาญเรื่องการปรับฮวงจุ้ยและจะให้คำแนะนำโดยไม่คิดค่าตอบแทน นอกจากนี้ ยังใช้พู่กันจีนเขียนยันต์เป็นภาษาจีนว่า “天官赐福” ซึ่งอ่านว่า “เทียน กัว สื่อ ฮก” ในภาษาจีนแต้จิ๋ว เพื่อแจกจ่ายให้ชาวบ้านเป็นขวัญกำลังใจอีกด้วย หลายคนบอกว่านำยันต์ที่เซียนแปะโรงสีให้กลับไปบูชาก็ค้าขายดี ทำมาหากินได้คล่องมากขึ้น ซึ่งยันต์นั้นถูกเรียกว่า “ยันต์ฟ้าประทานพร” ตามความหมายของตัวอักษรจีน
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระเครื่อง วัดดัง ขอพรโชคลาภ อ่านเพิ่มเติม : สิ่งศักดิ์สิทธิ์
ผู้สนับสนุน : คลิ๊ก
อ้างอิงจาก : ไทยรัฐ