งูพญานาค คืออะไร ไขความลับของสัตวเทพสุดลึกลับ!
งูพญานาค ในบรรดาสัตวเทพ ที่เป็นความเชื่อ ของผู้คนในภูมิภาคเอเชีย ที่ได้รับการกล่าวถึง มากที่สุดในขณะนี้ คือพญานาค หรือบางที ก็มีการจำแลงกาย เป็น งูพญานาค ซึ่งนิยามของคำว่า พญานาค ในแต่ละท้องถิ่น มักจะมีรูปลักษณ์ เครื่องแต่งกาย บทบาทหน้าที่ และ ลักษณะ
ถิ่นที่อยู่อาศัย ก็มีความแตกต่างกันไป แต่หลักใหญ่ใจความ ที่แสดงให้เห็นถึง ความเป็นพญานาค นั่นก็คือลักษณะข องสัตว์ที่มีลำตัวยาว มีเกล็ดดูคล้ายงูยักษ์ ที่มีพิษร้าย! สามารถทำให้ สิ่งมีชีวิตอื่นใด ที่เข้ามาใกล้ หรือมาสัมผัส ได้รับอันตรายถึงชีวิต ดูซีรี่ย์
งูพญานาค ลักษณะนิสัยของพญานาคเป็นอย่างไรบ้าง
เป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยาก เพราะว่ากันว่า พญานาคบางตัว จะเป็นพญานาค ที่ศักดิ์ชัยในศีลธรรม ชอบเจริญภาวนา ไม่ทำร้ายร่างกาย หรือ กินสัตว์อื่นใด ที่มีชีวิตอยู่ ทั้งยังเป็นพญานาค ที่มีนิสัยชอบปลีกวิเวก อยู่เพียงลำพัง ไม่ชอบเข้าใกล้มนุษย์ หรือ มีถิ่นฐานการอาศัย ที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ ไม่ว่า
ด้านใดก็ตาม นอกจากนี้ เรื่องมีพญานาค บางประเภท ที่มีนิสัยดุร้าย ชอบทำร้ายผู้อื่น นิยมเสพกินอาหาร อันเป็นการตัดชีวิต ของสัตว์ชนิดอื่น รวมถึงลักษณะนิสัย ที่มักมากในกามารมณ์ ชอบแปลงกาย มาเสพสังวาส กับ มนุษย์ หรือ สัตว์บนโลกมนุษย์อยู่เสมอ พญานาค มีจริงไหม
งูพญานาค การขึ้นมาบนโลกมนุษย์ของพญานาคราช
ทุกครั้งที่ขึ้นมา ก็มิอาจนำเอารูปร่างดั้งเดิม อันเป็นร่างของ นาคราช ขึ้นมาปรากฏกาย อยู่บนโลกมนุษย์ให้ผู้คน มองเห็นด้วยตาเปล่าได้ ด้วยเหตุนี้ พญานาค เมื่อขึ้นมายังโลกมนุษย์แล้ว จึงจำเป็นจะต้องแปลงกาย เป็นงูขนาดใหญ่ เรียกว่าเป็น งูพญานาค ซึ่งการที่พบเห็น งูนาคราช บนโลกมนุษย์
นั่นแสดงว่า จะต้องมีเหตุลางร้าย หรือ เหตุอันวิปริตพิสดาร เกิดขึ้นในระยะเวลาไม่ช้านาน ซึ่งในอดีต มีตำนานกล่าวขานถึง องค์พญานาค เอาไว้หลากหลาย แต่ก็มีหลายตำนาน ที่ผู้คนจดจำ และ นำมาเล่าต่อในปัจจุบัน จนทำให้บางตำนาน เป็นที่จดจำ และ ถูกกล่าวขาน ยกย่องว่า เป็นวรรณกรรม พื้นบ้านชั้นเยี่ยม ในเวลาต่อมาอีกด้วย งูหงอนไก่ รูปภาพ
1.พญานาคสุทโธและพังคี
ชื่อเสียงของ พญานาค ทั้งสองนี้ มาจากตำนานเรื่อง ผาแดงนางไอ่ ซึ่งว่ากันว่าพญาพังคี ได้แปลงกายเป็น กระรอกเผือก ขึ้นมาชมสวน ของเมืองเอกธีตา แล้วพบเจอกับนางไอ่ จึงหลงใหลในความงาม ของนาง ครั้นเมื่อนางไอ่ มองเห็นพังคี ในรูปของกระรอกเผือก ด้วยบุพกรรมที่ส่งผลมา
แต่ชาติปางก่อน ทำให้นางอาย เกิดความรู้สึก อยากกินเนื้อกระรอกเผือก ตัวนี้เป็นอย่างยิ่ง จึงให้นายพราน ตามฆ่ากระรอกเผือกตัวนี้ เพื่อนำเนื้อมาปรุง เป็นอาหารได้กับนาง เมื่อนายพราน ใช้ธนูยิงกระรอกเผือก ภังคีได้รับความเจ็บปวด จากคมลูกธนู แต่ก่อนตาย ได้อธิษฐานเอาไว้ว่า ขอให้เนื้อ
ของตน สามารถเลี้ยงผู้คน ได้อย่างอิ่มหนำสำราญ ให้เนื้อของตน มีความเอร็ดอร่อยถูกปาก ซึ่งก็เป็นเรื่องแปลกว่า กระรอกตัวเล็ก ที่ถูกนายพรานยิงตาย สามารถชำแหละ แบ่งปันกันได้ทั่วทั้งเมือง ซึ่งผู้ที่ไม่ได้รับแจกจ่าย เนื้อกระรอกนี้คือ แม่หม้ายที่อาศัย อยู่โดยลำพัง เพราะมีบ้าน อยู่ห่างไกล จากเขตเมือง
ต่อมาเมื่อข่าวทราบถึง หูพญาสุทโธว่า เจ้าชายพังคีถูกฆ่า และนำเนื้อไปแบ่งปันกันกิน พญาสุทโธก็ได้นำทัพ งูนาคราชทั้งหลาย ขึ้นไปชอนไช ให้เมืองเอกธีตา จมลงในบาดาล ภายในคืนนั้นเอง ทำให้ผู้ที่รับประทาน เนื้อกระรอกเผือกทุกคน ต้องตายด้วยอิทธิฤทธิ์ ของพญานาคราช จะมีผู้รอดชีวิต ก็เพียงบรรดา แม่หม้ายที่อาศัยอยู่นอกเมือง ไม่ได้มีส่วน ในการรับประทาน เนื้อของพังคีเท่านั้น ซึ่งตำนานที่พญานาค ทำให้เมืองเกิดความล่มจมนี้
นอกจากจากเป็ นตำนานเรื่องเล่าของ หนองหารสกลนครแล้ว ยังมีตำนานที่คล้ายคลึงกัน ในตำนานโยนกเชียงแสนล่ม เพราะผู้คนในเมือง ร่วมกันกินปลาไหลเผือก ที่มีเนื้อเยื่อ มากมายมหาศาล ทำให้พญานาคโกรธ และ ส่งกองทัพงูนาคราช มาทำให้เมือง โยนกเชียงแสนล่มจมน้ำ แม้ในเรื่องนี้ ก็ยังมีการกล่าวถึง บรรดาแม่หม้าย ที่ไม่ได้รับเนื้อส่วนแบ่ง สำหรับทำอาหาร จึงกลายเป็น ผู้รอดชีวิตในที่สุด
2.ตำนานสร้างแม่น้ำโขง และแม่น้ำน่าน
ตำนานเรื่องมีอยู่ว่า พญานาค 2 ตนเป็นห่วงพญานาคขนาดใหญ่ เวลาจะเลยไปทางใด ก็มักจากเกิดร่องรอย บนผืนแผ่นดิน ทำให้กลายเป็น ทางน้ำไหลผ่าน อยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้ พญานาคทั้งสอง จึงเกิดความรู้สึก ที่อยากวางเดิมพัน กันว่าใครก็ตาม ที่สามารถสร้างทางน้ำ ให้ไหลลงทะเลได้ก่อนกัน
ให้ถือเป็นผู้ชนะ เมื่อถึงเวลานัดหมาย ที่จะใช้เป็น มงคลฤกษ์งามยามดี ของการแข่งขันแล้ว พญานาคที่มีนิสัย ใจร้อนหงุดหงิด ต้องการชัยชนะ อย่างรวดเร็ว จึงเลือกที่จะเลื้อยตัดผ่านหิน ไปตรง ๆ ทำให้เกิดเกาะเก่งมากมาย และ ท้องน้ำกลายเป็นลูกคลื่น ไม่ราบรื่นสม่ำเสมอ ในบางช่วงของน้ำ ได้ตัดผ่าน ดินเหนียวดินภูเขาสีแดง ทำให้แม่น้ำแห่งนี้ มีสีขุ่นข้น ด้วยฝุ่นละอองต่าง ๆ
แต่พญานาคอีกตน กลับมีนิสัยใจเย็นค่อย ๆ เลื้อยไปตามพื้นดินอ่อน หลบเลี่ยงหลบหลีก ก้อนหิน หรือ ภูเขาที่มีดินแดง ทำให้ธารน้ำ ที่ได้มีสีใสบริสุทธิ์ ไม่ขุ่นหมอง แต่ด้วยลักษณะ การเลื้อยที่หลบหลีก อุปสรรคต่าง ๆ มากมาย ทำให้แม่น้ำสายนี้ มีความโค้งโดยเฉพาะ ในช่วงต้นของแม่น้ำ ที่พาด
ผ่านภูเขา เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานนัก ทางฝั่งนาคผู้ใจร้อน ก็ประสบความสำเร็จ ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้น แต่น้ำลำธารที่ได้กลับมีสีขุ่นข้น ไม่เหมาะที่จะใช้เป็น น้ำอุปโภคบริโภค ในกาลเวลาต่อมา เราได้ขนาดนามแม่น้ำหินนี้ ว่าแม่น้ำโขง ส่วนพญานาคอีกตน ที่มีอุปนิสัยใจเย็น ก็ใช้เวลาในการตัดถังน้ำ ที่ยาวนานกว่า แต่น้ำที่ได้กลับมีความใสสะอาดบริสุทธิ์ สามารถใช้ อุปโภค บริโภค ได้นั่น ก็คือแม่น้ำน่าน ในปัจจุบันนี้นั่นเอง
3.ตำนานงูนาคราชเฝ้าทรัพย์
ในสมัยโบราณกาล สถานการณ์บ้านเมือง เกิดความวุ่นวาย เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เนื่องจากกลุ่มชน แต่ละกลุ่ม น่าจะมีการให้รบราฆ่าฟันกัน ทำให้อาณาจักรต่าง ๆ ขาดเสถียรภาพ ขาดความปลอดภัย จากการสงครามที่เกิดขึ้น เพราะอาณาจักร หรือ กลุ่มชนใดที่รบชนะ ก็จะทำการ
กวาดต้อนบริวาร ตลอดจนทรัพย์สินต่าง ๆ ของผู้แพ้ไปจากเมือง ด้วยเหตุนี้ ในยามที่เกิดวิกฤตสงคราม บ้านเมืองหลายแห่ง จึงนิยมนำทรัพย์สิน ไปซ่อนไว้ในถ้ำ แล้วทำการ ร่ายมนต์คาถา เพื่อปิดปากถ้ำมีการอัญเชิญ งูนาคราชขึ้นมาเป็น ผู้ปกป้องทรัพย์สิน ซึ่งในบางครั้ง อาจจะมีการบวงสรวง งูนาคราช งูหงอนไก่ ด้วยการประหารคน หรือ สัตว์ในบริเวณดังกล่าว เพื่อเป็นเครื่องบูชายันต์ ทำให้งูมีนอิทธิฤทธิ์ ที่มากขึ้น
ลักษณะทางกายภาพ และหน้าที่ของ งูจงอางมีหงอน เฝ้าทรัพย์ จะมีลักษณะเป็นงูตัวใหญ่ ที่มีพิษแรง เมื่อกับใครแล้ว จะต้องล้มตายอยู่ ณ บริเวณนั้น นายพรานหลายคนเชื่อว่า หากพบงูใหญ่ในป่า หรือ ในบริเวณถ้ำที่เลื่อยผ่านแล้ว ไม่มีรอยของงูนั่น ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า เป็นงูเฝ้าทรัพย์
ควรหลีกหนี จากบริเวณถ้ำ หรือ อุโมงค์ดังกล่าว ในด้านหน้าที่ของ งูเผือก พญานาค จะมีหน้าที่ พิทักษ์ทรัพย์สินภายในถ้ำ อาจจะกระทำด้วยการบังตา หรือ การพลังตา ทำให้ผู้คนมองไม่เห็นทรัพย์สิน ที่อยู่ภายใน ตลอดจนใช้ฤทธานุภาพ ในการปกป้องไม่ให้ผู้คน เข้าไปจับต้องทรัพย์สิน
ดังกล่าวได้ สำหรับทรัพย์สมบัติ ที่มีงูเฝ้าอยู่นี้ จะคืนให้กับเจ้าของ อย่างแท้จริง เมื่อเจ้าของกลับชาติมาเกิด แล้วงูยักษ์ก็จะหมดหน้าที่ กลับไปเป็นเพียง งูธรรมดาสามัญตัวหนึ่ง