หลวงปู่ทวด เปิดอภินิหารหลวงปู่ทวดหลวงพ่อทวด เกจิผู้โด่งดังจากอยุธยาถึงรัตนโกสินทร์
หลวงปู่ทวด หรือหลวงพ่อทวด ถือเป็นพระเกจิที่ได้รับความเคารพศรัทธาจากประชาชนชาวไทยมาอย่างยาวนาน ประวัติพระสงฆ์ไทยวัดช้างให้ นั่นเพราะท่านเป็นพระรูปสำคัญในสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่แม้จะผ่านมาหลายร้อยปีแล้ว ความเลื่อมใสศรัทธาในตัวท่านไม่ได้ลดน้อยลงเลย โดยเฉพาะวัตถุมงคลที่เกี่ยวข้องกับท่าน นับวันยิ่งมีมูลค่าสูงและหาได้ยาก เพราะเชื่อว่าวัตถุมงคลของท่านมีพุทธคุณครอบจักรวาล หลวงพ่อทวด
ไม่ว่าจะเป็นด้านแคล้วคลาดปลอดภัย เมตตา เสริมบารมี ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ได้รับความศรัทธาจาก ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกันอย่างท่วมท้น หลวงปู่ทวด อีกทั้งในตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ก็เคยไปจำพรรษาที่มาเลเซีย โหลดเกมส์
หลวงปู่ทวด LuangPuThuatหลวงพ่อทวด ต่างกันอย่างไร
การเรียกขานพระผู้อาวุโสว่าหลวงปู่หรือหลวงพ่อนั้น หลวงพ่อทวด แท้จริงแล้วไม่ใช่เรื่องของบรรดาศักดิ์ แต่มันแสดงถึงค่านิยมของคนในแต่ละพื้นที่ รวมไปถึงแสดงการยกย่องแสดงถึงความผูกพันว่าพระสงฆ์ในศาสนาพุทธนั้น ได้รับการยอมรับและได้รับความเลื่อมใส จากพุทธศาสนิกชนไม่ต่างจากบุคคลในครอบครัว ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วหลวงพ่อทวด ประวัติพระสงฆ์ไทยวัดช้างให้ ท่านเคยได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น สมเด็จเจ้า
พระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์ หรือสมเด็จเจ้าพะโคะ แต่ก็ยังยินดีให้ลูกศิษย์และประชาชนทั่วไปเรียกท่านว่า หลวงปู่หรือหลวงพ่อมากกว่า การเรียกพระสงฆ์ด้วยสรรพนามเช่นนี้ ทำให้ชาวพุทธได้รู้สึกถึงความใกล้ชิด เข้าถึงง่ายซึ่งไม่ได้กำหนดตายตัวว่าต้องเรียกพระสงฆ์รูปใด ด้วยสรรพนามว่าหลวงพ่อ หลวงปู่ หรือหลวงตา
แต่ก็ยังคงมีการถกเถียงกันเรื่องประเด็นนี้ว่า พระชราที่บวชโดยที่ไม่เคยมีครอบครัวมาก่อนหน้านี้ จะถูกเรียกว่า หลวงปู่ แต่ถ้าพระชรารูปนั้นเคยแต่งงานหรือมีครอบครัวมาแล้ว จะเรียกท่านว่าหลวงตา ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถใช้ได้กับพระทุกรูป เพราะในกรณีของหลวงตามหาบัวนั้น ท่านก็ยังไม่เคยมีครอบครัวมาก่อน แม้ตามธรรมเนียมจะต้องเรียกว่าหลวงปู่ แต่ประชาชนก็อาจจะเคยชินกับการเรียกว่าหลวงตา จึงยึดถือเอาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ทั้งนี้ยังมีอีกความนิยมที่กล่าวเอาไว้ว่าถ้าใครก็ตามที่บวชพระ โดยไม่ได้ผ่านการบวชเณรจะถูกเรียกว่า หลวงตา แต่ถ้าเป็นพระที่บวชตั้งแต่เป็นเณรจนถึงเป็นพระ ก็จะเรียกท่านว่าหลวงพ่อหรือหลวงปู่
หลวงปู่ทวด พุทธคุณช่วยในเรื่องอะไร
ประวัติพระสงฆ์ไทยวัดช้างให้ การบูชาสมเด็จพระโคะจะช่วยหนุนผู้บูชาแทบทุกด้านนี่จึงเป็นที่มาว่า ถ้าบูชาสมเด็จพระโคะจะมีพุทธคุณครอบจักรวาล แต่เชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านก็คงกำลังเกิดข้อกังขาว่า เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นเราจึงจะขออธิบายเป็นข้อ ๆ ดังต่อไปนี้
– ความสำเร็จด้านการเรียน ด้านการงานโดยเฉพาะข้าราชการจะให้ความเคารพศรัทธาในตัวท่าน เพราะหลวงปู่นั้นเป็นผู้ที่แตกฉานด้านการเรียนบาลี ท่านเป็นผู้ที่ใฝ่รู้ใฝ่เรียนอยู่เสมอ ตอนที่ท่านเป็นเด็กไม่ว่าจะเป็นภาษาขอมหรือภาษาไทย ก็สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้เมื่ออายุครบ 15 ปีจึงได้มาบวชเป็นสามเณรเพื่อที่จะได้ศึกษาเล่าเรียนได้สูงขึ้น
– แคล้วคลาดปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางโดยรถยนต์หรือ การเดินทางผ่านทางเรือ เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเรื่อง เหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่งเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเมื่อตอนที่ท่านอยู่บนเรือกลางทะเล แต่ตอนนั้นน้ำจืดสำหรับดื่มเกิดหมดขึ้นมากะทันหัน หลวงปู่จึงช่วยหาน้ำจืดโดยมีคำกล่าวว่าท่านใช้เท้าจุ่มลงไปในน้ำแล้ว น้ำทะเลตรงนั้นก็กลายเป็นน้ำจืดทำให้คนบนเรือรอดชีวิตได้อย่างน่าอัศจรรย์
– เมตตาบารมี ในสมัยที่ท่านยังเป็นเด็กชายปู ไม่ว่าต้องการร่ำเรียนที่ไหนพระอาจารย์ รวมถึงผู้เป็นครูต่างก็รักใคร่เอ็นดูท่าน แม้แต่เศรษฐีชื่อปานยังเคยยกหนี้สินให้แก่บิดามารดาท่าน จนทำให้ทั้งคู่มีฐานะดีขึ้น ทุกวิชาที่ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนพระอาจารย์ทั้งหลาย ต่างสั่งสอนอย่างสุดความสามารถโดยไม่ปิดบัง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีความเชื่อว่าถ้าบูชาหลวงพ่อทวดเป็นประจำ ผู้ใหญ่ก็จะให้ความเอ็นดูและคอยส่งเสริมเสมอ
อภินิหาร เรื่องเล่าหลวงปู่ทวด เรื่องน่าสนใจ หลวงพ่อทวดเสียปีไหน
อภินิหารที่เกิดขึ้นกับท่านนั้นเป็นตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาแบบปากต่อปาก จากคนในละแวกนั้น หลวงพ่อทวด โดยเริ่มมาตั้งแต่สมัยที่หลวงปู่ท่านเป็นเด็ก และเกิดมาเป็นทาสในเรือนเบี้ยของเศรษฐีท่านหนึ่ง ชื่อเศรษฐีปาน สมัยเด็กนายหูกับนางจันทร์บิดามารดาตั้งชื่อให้ท่านว่า ปู ตอนที่เป็นเด็กแบเบาะบิดามารดาไปเกี่ยวข้าวในนา ส่วนท่านนอนอยู่ในเปล เมื่อมารดามาให้นมกลับพบว่า งูจงอางตัวใหญ่มาพันรอบเปลที่ท่านนอนอยู่ งูจงอางตัวนั้น
ไม่ยอมไปไหนแต่สุดท้ายงูก็ไม่ทำร้ายเด็กและเลื้อยหายไปในป่า พอบิดามารดาเข้าไปดูลูกน้อยที่นอนอยู่ในเปล พบว่ายังหลับสนิทและอยู่ข้าง ๆ ก็มีเมือกแก้วที่งูคายไว้อยู่บนอกเด็กน้อย ต่อมาเมือกนั้นก็แข็งกลายเป็นลูกแก้ว และยังถูกนำมาประดิษฐานไว้ที่วัดพะโคะ หลังจากนั้นเป็นต้นมาบิดามารดาของท่านก็มีฐานะดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ยังมีเรื่องราวปาฏิหาริย์หลายอย่างที่เกิดขึ้น ในสมัยที่ท่านเติบโต ไม่ว่าจะเป็นการหยุดช้างด้วยมือเปล่า ทว่าปาฏิหาริย์ที่เล่าหรือมากที่สุด ก็คงไม่พ้นเรื่อง เหยียบน้ำทะเลจืด หรือก็คือการเปลี่ยนน้ำเกลือให้กลายเป็นน้ำจืดที่สามารถดื่มกินได้
หลวงปู่เคยเดินทางไปศึกษาและเผยแพร่ศาสนาในหลายจังหวัด ซึ่งช่วงสุดท้ายของชีวิตท่านนั้นได้จำวัดอยู่ที่ เมืองไทรบุรี อดีตเมืองนี้เคยอยู่ในประเทศไทย แต่ปัจจุบันนี้ได้ตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ และกลายมาเป็นประเทศมาเลเซียในปัจจุบัน วันที่ท่านมรณภาพคือ 6 มีนาคม พ.ศ 2225 สิริอายุได้ 100 ปี 80 พรรษา และหลังจากท่านมรณภาพแล้ว ศพของท่านก็ถูกนำมาไว้ที่วัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี อัฐิททองท่านก็ยังถูกเก็บไว้ที่นั่นจวบจนปัจจุบัน
หลวงปู่ทวด รุ่นต่างๆ หลวงปู่ทวดรุ่นไหนมีราคา
ก่อนอื่นเราต้องขออธิบายก่อนว่า ในสมัยที่หลวงพ่อทวดยังมีชีวิตอยู่ หลวงพ่อทวด ท่านไม่ได้สร้างวัตถุมงคลขึ้นมา แต่วัตถุมงคลเหล่านี้เกิดหลังจากที่ท่านละสังขารไปแล้ว ซึ่งทางวัดต้องการสร้างพระเครื่องเพื่อระลึกถึงท่าน โดยยึดวิธีการสร้างตามเครื่องรางของทางภาคใต้ ส่วนลักษณะหลวงปู่ที่เป็นพระภิกษุชรานี้ เกิดจากภาพนิมิตของบิดาผู้แกะพิมพ์ขี้ผึ้ง ซึ่งเป็นรูปแบบที่ยึดถือมาจนถึงปัจจุบัน และพระเครื่องรุ่นที่มีราคาที่สุดก็ต้องยกให้ “หลวงปู่ทวดรุ่นแรก เนื้อว่าน ปี 2497”
การสร้างเหรียญของหลวงปู่สร้างขึ้นครั้งแรก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน พ.ศ.2497 ซึ่งว่านที่นำมาทำนั้นเป็นเนื้อว่าน 108 และมีส่วนผสมจากพืชทนสิทธิ์ของทางภาคใต้ ผสมเหล็กไหล มวลสารศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ และที่ขาดไม่ได้ก็คือดินกากยายักษ์ ปัจจุบันราคาตกองค์ละเป็นล้าน อีกทั้งยังเคยมีผู้ที่แขวนท่านแล้วรอดปลอดภัย จากอุบัติเหตุมาแล้วนับไม่ถ้วน และมันก็เป็นเรื่องที่แปลกแต่เกิดขึ้นจริงตรงที่ว่า ยังไม่เคยมีผู้ที่สวมพระเครื่องของท่าน
ตายโหงเลยสักคน และปัจจุบันก็ได้มีการจัดสร้างพระเครื่องของท่านออกมาอีกหลายรุ่น โดยวิธีการสวดมนต์ขอพรท่านนั้นจะนิยมใช้ธูปสีดำ 9 ดอก ดอกมะลิสีขาว 9 ดอก แล้วสวดด้วยคาถาดังนี้
ตั้งนะโม 3 จบ
นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา (3 จบ)
ประวัติพระสงฆ์ไทยวัดช้างให้ กว่า 300 ปีแล้วที่หลวงปู่ทวดได้ละสังขารไป แต่ชื่อของท่านยังคงเป็นที่จดจำของลูกหลานชาวไทย นั่นไม่ใช่เพียงเพราะเรื่องอภินิหาร แต่คุณความดีของท่านที่สร้างไว้ให้กับอนุชนรุ่นหลังต่างหาก ที่ทำให้ประชาชนยังคงกล่าวขวัญถึง แต่ทั้งนี้ใครก็ตามที่จะบูชาพระเครื่องหลวงปู่ทวด ตัวคุณเองก็ต้องยึดหลักศีลธรรมเป็นใหญ่ มิเช่นนั้นต่อให้มีองค์พระที่มูลค่านับล้านมาห้อยคอ ถ้าทำผิดศีลธรรมก็คงไม่ต่างอะไรกับ
การห้อยก้อนหินหรือแผ่นโลหะธรรมดา แต่ในทางกลับกัน หากคุณศรัทธาในตัวท่าน ระลึกถึงและยึดถือปฏิบัติตามคำสั่งสอนของท่าน ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องรางมูลค่านับล้าน ชีวิตของคุณก็จะประสบความสำเร็จ มีแต่ความรุ่งเรืองสืบไป
เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นแรกสร้างจากเนื้ออะไร มีกี่เหรียญ
หลวงพ่อทวด ในการสร้างวัตถุมงคลหลวงปู่ทวดนั้น เริ่มต้นครั้งแรกที่วัดช้างให้ ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 เมษายนพุทธศักราช 2497 โดยในการสร้างครั้งนั้นเป็นการใช้มวลสารที่เป็นเนื้อว่านศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งหาได้ในแถบภาคใต้ของบ้านเรา และเป็นรุ่นที่โด่งดังมากในขณะนั้น ปัจจุบันมีราคาถึง 6 หลักเลยทีเดียว ด้วยความนิยมและความเลื่อมใสศรัทธาของประชาชน ที่มีต่อหลวงปู่ทวดในปี 2500 จึงได้มี
การออก เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นแรก ซึ่งเปลี่ยนจากเนื้อว่านมาเป็นเนื้อโลหะ มีข้อดีตรงที่ดูแลรักษาง่าย เพราะเนื้อว่านหากไม่สามารถควบคุมความชื้นได้ ก็อาจจะทำให้พระเครื่องผุกร่อนได้ในอนาคต
หลวงปู่ทวด สอนวิธีดูเหรียญหลวงพ่อทวด รุ่น 1 ปี 2500 มีวิธีดูอย่างไร
สำหรับเหรียญรุ่น 1 ปี 2500 มีการสร้างขึ้นเพียงแค่ 3,000 เหรียญในขณะนั้น แน่นอนว่าเรียนนี้หมดลงอย่างรวดเร็วหลังจากที่มีการแจกจ่าย เพราะด้วยพุทธศิลป์ที่งดงามและความเข้มขลังในพิธีพุทธาภิเษก ปัจจุบันนี้แทบหาไม่ได้ เพราะนักสะสมทั้งหลายพากันเก็บเข้ากรุ หากจะปล่อยก็ปล่อยในราคา 7 หลักเป็นอย่างต่ำซึ่งความโดดเด่นของ เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นนี้จะประกอบไปด้วยองค์ประกอบ 5 อย่างคือ
1. รูปทรงเหรียญ เป็นลักษณะเหรียญใบเสมา สร้างจากเนื้อทองแดง เรียนองค์พระจะมีห่วงหรือหูในตัว เป็นเหรียญรุ่นแรกที่เป็นการปั๊มขึ้นรูปซึ่งด้านหน้าจะเป็นรูปหลวงปู่ทวดขัดสมาธิเต็มองค์บนอาสนะ ด้านหลังจะเป็นรูปเหมือนหลวงปู่ทิมเฉพาะช่วงอก ล้อมกรอบด้วยลายไทย แต่ด้านหลังจะไม่มีการล้อมกรอบเหมือนกับด้านหน้า
2. รายละเอียดของตัวหนังสือ แม้ประชาชนส่วนใหญ่จะเรียกสรรพนามท่านว่าหลวงปู่ทวด แต่ในการสร้างเหรียญนี้ขึ้นมา กลับปั๊มชื่อว่า “หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด” เป็นกรอบด้านหน้าที่อยู่ข้างอาสนะซ้ายขวาของท่าน ใต้ห่วงปั๊มภาษาบาลีคำว่า “นะ โม พุ ธา ยะ” ส่วนด้านหลังเหรียญที่เป็นรูปหลวงปู่ทิม ด้านล่างจารึกคำว่าพระครูวิไลโสภณ (ทิม) ด้านบนเป็นภาษาบาลีเขียนว่า นะ มะ พะ ธะ”
3. รายละเอียดขององค์พระ ด้านหน้าซึ่งเป็นหลวงปู่ทวดนั้น ท่านจะห่มจีวรแบบห่มเฉวียงบ่า ภาคสังฆาฏิ นั่งอยู่บนอาสนะฐานดอกบัวสองชั้น อีกหนึ่งความแปลกและความน่าสนใจก็คือ ศีรษะของท่านจะใหญ่โดดเด่น จึงทำให้ลูกศิษย์ส่วนใหญ่เรียกเหรียญรุ่นนี้ว่า “เหรียญหัวโต” ส่วนอิริยาบถท่านั่งนั้นใส่ใจรายละเอียดแม้กระทั่งการนั่งขัดสมาธิเพชร ส่วนหลวงปู่ทิมนั้น ใบหน้ารูปทรงหัวใจและห่มจีวรแบบห่มคลุม
4. เนื้อมวลสาร หากเป็นรุ่นแรกซึ่งเป็นเนื้อมวลสารโลหะนั้น จะทำจากเนื้อทองแดงมีเพียงแค่ 3,000 เหรียญแต่หลังจากที่เหรียญรุ่นแรกหมดไปในระยะเวลาอันรวดเร็ว ก็ได้มีการสร้างเหรียญรุ่น 1 ปี 2500 ขึ้นมาอีก 500 เหรียญแต่ที่นี้เนื้อก็จะมีความต่างกัน เพราะไม่ต้องการให้ซ้ำกับรุ่นที่สร้างครั้งแรก 5,000 เหรียญต่อมาจึงใช้เนื้อทองแดงกะไหล่เงินและกะไหล่ทอง ส่วนพิมพ์พระนั้นก็ยังคงเหมือนกันทุกประการ
นี่เป็นเพียงวิธีการสังเกตเบื้องต้นเกี่ยวกับ เหรียญหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ประวัติพระสงฆ์ไทยวัดช้างให้ หากนับเวลาการสร้างจนถึงปัจจุบันนี้ก็ผ่านมา 166 ปีแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามความนิยมพระเครื่องหรือวัตถุมงคลของหลวงปู่ทวด ก็ยังคงมีกระแสอยู่เสมอนั่นเพราะเรื่องของพุทธคุณที่ขึ้นชื่อว่าเข้มขลัง การปลุกเสกโดยเกจิอาจารย์ดังนั่นเอง