แห่ชมปาฏิหาริย์ รถเครน 6 ล้อ บรรทุกรูปปั้นขนาดใหญ่มหึมาติดคาอยู่สะพานลอยคนข้าม

แห่ชมปาฏิหาริย์

ไม่สามารถผ่านไปได้ ขณะที่คนสัญจรไปมาต่างตกตะลึง และสงสัยว่ารูปปั้นขนาดใหญ่สีดำ คล้ายมนุษย์ผู้ชายวัยชราในท่านั่ง มือทั้งสองข้างวางบนเข่า มีปีกอยู่ด้านหลัง มีเขี้ยวสีทอง และเล็บยาวสีแดง คืออะไร พร้อมกับหยิบมือถือถ่ายรูปและคลิป จนกลายเป็นไวรัลสร้างความฮือฮาในโลกโซเชียล

หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรลงพื้นที่แก้ไขปัญหา ทำให้รถเครนสามารถลอดผ่านสะพานลอยคนข้ามไปได้ และทราบกันภายหลังว่าเป็นรูปปั้นครูกายแก้ว บรมครูผู้เรืองเวทย์ ครึ่งมนุษย์ครึ่งนก มีปีกด้านหลัง เล็บยาว ตาแดง และมีเขี้ยวคล้ายนกการเวก ซึ่งเป็นผู้บำเพ็ญตน มีความน่าเกรงขาม โดยผู้นับถือบูชาครูกายแก้ว เชื่อกันว่าจะช่วยในเรื่องความรำ่รวยและความสำเร็จตามที่ขอพร

ครูกายแก้ว ผู้มีวิชาตบะแก่กล้าเมื่อพันปีก่อนในกัมพูชา ยุคของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 และในเวลาต่อมาพระธุดงค์องค์หนึ่งของไทย ได้เรียนรู้วิชาอาคมของครูกายแก้ว เมื่อเดินทางกลับมาจังหวัดลำปาง ได้นำองค์จำลองของครูกายแก้ว ขนาดหน้าตัก 2 นิ้วมาด้วย ก่อนมอบให้ลูกศิษย์ และมีการมอบต่อให้กับอาจารย์สุชาติ รัตนสุข ผู้เชี่ยวชาญในการตั้งศาลเทพต่างๆ ได้ทำการหล่อรูปองค์ครูกายแก้วเป็นครั้งแรกในไทย ภายหลังครูกายแก้วปรากฏให้เห็นในนิมิต

ในปี 2561 อาจารย์สุชาติ รัตนสุข ได้เสียชีวิตลง แต่วิชาความรู้ยังคงอยู่มีการถ่ายทอดศาสตร์ต่างๆ ให้กับอาจารย์หน่อย “สมสฤษดิ์ รัตนสุข” ผู้เป็นลูกชาย และได้สร้างรูปปั้นครูกายแก้ว ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จนเกิดเป็นไวรัลระหว่างรถเครน 6 ล้อกำลังบรรทุกรูปปั้นครูกายแก้ว ไปประจำอยู่บริเวณโรงแรมเดอะบาซาร์ บนถนนรัชดาภิเษก และยังได้สร้างศาลครูกายแก้ว ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และ จ.เชียงใหม่

“เทพฤทธิ์ แป้นสุข” ลูกบุญธรรมของอาจารย์สุชาติ รัตนสุข ในฐานะน้องชายอาจารย์หน่อย ระบุว่า การสร้างรูปปั้นครูกายแก้วขนาดใหญ่ เนื่องจากเจ้าของโรงแรมเดอะบาซาร์ ต้องการจะปรับฮวงจุ้ย ตามคำแนะนำของอาจารย์หน่อย หลังลูกค้าลดน้อยลง และเป็นความเชื่อส่วนตัวเชื่อว่าทำให้มั่งคั่ง ในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าตั้งใจมุ่งมั่นก็จะสำเร็จ ซึ่งบรรดาเจ้าของบ่อนกาสิโนประเทศเพื่อนบ้านรอบๆไทย รวมถึงชาวสิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง ไต้หวัน และจีน ต่างให้ความนับถือมานานแล้ว

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระเครื่อง วัดดัง ขอพรโชคลาภ อ่านเพิ่มเติม : ความเชื่อ

ผู้สนับสนุนคลิ๊ก

อ้างอิงจาก : ไทยรัฐ